วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559

โรคตับอักเสบซี



โรคตับอักเสบซี
ไวรัสตับอักเสบบีคืออะไร?

1.1 โรคตับอักเสบซีคืออะไร
"โรคตับอักเสบ" หมายถึงการอักเสบของตับ อันเนื่องมาจากสารเคมี การเสพยาเสพติด การดื่มสุรามากเกินไป หรือเชื้อไวรัสต่างๆ โรคตับอักเสบซีนี้เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี

1.2 โรคตับอักเสบซีเหมือนกับโรคตับอักเสบ เอ และบี หรือไม่
โรคตับอักเสบเอ บีและซี เกิดจากเชื้อไวรัสต่างชนิดกันซึ่งล้วนแต่ทำให้เกิดอาการอักเสบของตับได้ เชื้อไวรัสแต่ละชนิดนี้ติดต่อกันได้หลายวิธี ท่านสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบชนิดเอและบีได้ แต่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ
ชนิดซี ท่านอาจติดเชื้อไวรัสตับอักเสบต่างชนิดกันได้ในเวลาเดียวกัน
ประมาณ ๑ ใน ๑๐๐ คนออสเตรเลีย และทั่วโลก มีเชื้อโรคตับอักเสบซี หลายๆคนไม่รู้ว่าตนเองมีเชื้อนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาหลายปีกว่าอาการของโรคจะปรากฎ

1.3 ท่านติดโรคตับอักเสบซีได้อย่างไร
โรคตับอักเสบซี ติดต่อจากเลือดของผู้ที่มีเชื้อโรคนี้เข้าสู่กระแสเลือดของอีกคนหนึ่ง เรียกการติดต่อนี้ว่า การสัมผัสระหว่างเลือดต่อเลือด แม้ว่าปริมาณเลือดจะน้อยมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่โรคนี้ก็สามารถแพร่ไปได้ มีความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคนี้ ดังนั้น ท่านต้องจดจำไว้ว่า ท่านสามารถติดโรคตับอักเสบซีจาก
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
  • ในหลายๆประเทศ วิธีการติดโรคตับอักเสบซีเกิดขึ้นจาก อุปกรณ์ทางการแพทย์และทันตกรรม ที่ไม่ได้ผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคและการรักษาทางแผนโบราณที่ใช้วิธีกรีดเจาะผิวหนัง ในประเทศออสเตรเลีย การบริจาคเลือด การฉีดวัคซีน และกระบวนการทางแพทย์ได้ผ่านการ ตรวจสอบและถือว่าปลอดภัย
  • การใช้อุปกรณ์ฉีดยา์ที่คนอื่นใช้แล้ว รวมทั้งการฉีดสารสเตอรอยด์เป็นวีธีแพร่โรคตับอักเสบซี ที่พบได้ทั่วไปในประเทศออสเตรเลีย
  • การสัก หรือเจาะร่างกาย ด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ
กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ
  • เจ้าหน้าที่อนามัย ที่ถูกเข็มฉีดยาตำ
  • การผ่านเชื้อจากแม่สู่ลูก ซึ่งอาจเกิดขึ้นในระยะตั้งครรภ์หรือระหว่างคลอด
  • การถ่ายเลือดในประเทศออสเตรเลีย ก่อนปี ๑๙๙๐
  • การใช้สิ่งของเครื่องใช้ของคนอื่นซึ่งอาจมีเลือดติดอยู่ เช่น มีดโกน และแปรงสีฟัน
  • การติดต่อทางเลือดในระหว่างมีเพศสัมพันธ์
  • โดนตำจากเข็มฉีดยาเสพติดทีทิ้งไว้ตามที่สาธารณะ
1.5 การตรวจหาโรคตับอักเสบซี

ท่านควรไปตรวจหาโรคตับอักเสบซี ถ้า
  • ท่านเคยได้รับการถ่ายเลือด ฉีดวัคซีน หรือผ่านกระบวนการทางแพทย์ในประเทศอื่น และท่านไม่มั่นใจว่าอุปกรณ์การแพทย์เหล่านั้นได้ผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อหรือไม่
  • ท่านเคยได้รับการรักษาทางแผนโบราณ การสักเจาะร่างกายด้วยอุปกรณ์ที่ท่านไม่มั่นใจว่า ได้ผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อมาแล้วหรือไม่
  • ท่านเคยฉีดยาเสพติด (รวมทั้งสารสเตอรอยด์) หรือใช้อุปกรณ์ฉีดยาร่วมกับผู้อื่นหรือช่วยผู้อื่นฉีดยา
  • ท่านเคยอยู่ในสถานคุมขัง และฉีดยาเสพติด รวมทั้งสารสเตอรอยด์ หรือใช้อุปกรณ์ในการ ฉีดยาร่วมกับผู้อื่น หรือ เคยสัก เจาะร่างกาย รวมทั้งใช้มีดโกน และแปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น
  • ท่านไม่แน่ใจว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการสัก เจาะร่างกายของท่าน ได้ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว
  • ท่านเคยรับการถ่ายเลือด ในประเทศออสเตรเลีย ก่อนเดือนกุมภาพันธ์ ๑๙๙๐
วิธีเดียวที่ีจะทราบว่าท่านมีโรคตับอักเสบซีหรือไม่ ก็คือ การไปตรวจเลือด ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดพร้อมขั้นตอน
การตรวจเลือดเพื่อหาโรคตับอักเสบซีได้จากแพทย์ของท่านหรือแพทย์ทั่วไป
ท่านสามารถขอใช้บริการล่ามทางสุขภาพ ล่ามจะไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของตัวท่านแก่ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่าน
ถ้าท่านไปที่คลีนิคสุขภาพทางเพศ ท่านจะได้รับการตรวจรักษาฟรีทั้งเก็บเป็นความลับ และท่านไม่ต้องแสดงบัตรเมดิแคร์

1.6 โรคตับอักเสบซีกับสุขภาพส่วนตัว
ถ้าท่านป่วยเป็นโรคตับอักเสบซี ท่านจำเป็นต้องรับการตรวจรักษาจากแพทย์เป็นประจำและพยายามรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์ แข็งแรงอีกด้วย
ถ้าพบว่าท่านเป็นโรคตับอักเสบซี สภาโรคตับอักเสบซี (Hepatitis C Council)ในรัฐที่ท่านอาศัยอยู่ สามารถให้ข้อมูล และความ ช่วยเหลือแก่ท่านได้

1.7 การรักษาโรคตับอักเสบซี
ประมาณ ๕๐ ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยเป็นโรคตับอักเสบซี สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วย วิธีการรักษาที่เรียกว่า "การรักษาแบบผสม" (Combination Therapy) เฉพาะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากคลีนิคโรคตับอักเสบเท่านั้นที่จะให้การรักษาแบบผสม
นี้ได้ คลีนิคโรคตับอักเสบมีในเฉพาะบางโรงพยาบาลและศูนย์สุขภาพชุมชน แพทย์ผู้เชี่วยชาญบางท่านอาจให้บริการนี้ที่
คลีนิคเอกชน ท่านสามารถสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ตั้งคลีนิคเหล่านี้ได้จากแพทย์ในท้องถิ่น หรือจากสภาโรคตับอักเสบซี
ประจำรัฐหรือเทอริทอรี่ที่ท่านอาศัย
ผู้ติดโรคตับอักเสบซีไม่จำเป็นจะต้องรับการรักษาทุกคน ท่านต้องมีอาการในระดับที่กำหนดไว้ จึงจะสามารถรับการรักษาได้ ท่านจะสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษาโรคนี้ได้จากแพทย์ของท่านหรือสภาโรคตับอักเสบซี (Hepatitis C Council) ในรัฐที่ท่านอาศัยอยู่
ผู้ป่วยดัวยโรคตับอักเสบซีบางคน ใช้การรักษาแบบแผนโบราณเข้าช่วย เพื่อลดอาการของโรคและผลข้างเคียงจากการรักษา แบบแผนปัจจุบัน ถ้าท่านสนใจ ท่านสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก สภาโรคตับอักเสบซี (Hepatitis C Council) และแพทย์แผนโบราณที่จดทะเบียน

1.8 การป้องกันโรคตับอักเสบซีในชุมชน
ทั่วโลก มีการป้องกันการแพร่โรคตับอักเสบซี โดย
  • ตรวจสอบการรับบริจาคเลือด
  • จัดหาอุปกรณ์การฉีดยาที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว และให้ความรู้แก่กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด (ลดโอกาสในการติดเชื้อ)
  • ทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งในแผนปัจจุบันและแผนโบราณ
  • ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เคริ่องมืออุปกรณที่ใช้ในการสักเจาะร่างกาย ก่อนนำมาใช้
โครงการเข็มและกระบอกฉีดยา (NSP) ได้ช่วยลดอันตรายจากการฉีดยาเสพติด ทั้งในประเทศออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ
ทั่วโลก
มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า โครงการเข็มและกระบอกฉีดยาในประเทศออสเตรเลีย ประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่เชื้อของโรคตับอักเสบซี ความสำเร็จนี้ช่วยลดปัญหาที่เกิดจากโรคตับอักเสบซีทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชนได้ด้วย รวมทั้งยังช่วยประหยัดงบประมาณด้านสาธารณสุขได้หลายพันล้านเหรียญออสเตรเลีย *

1.9 ช่วยเหลือและเข้าใจ
โรคตับอักเสบซี ก่อให้เกิดการดูหมิ่นเหยียดหยามและเข้าใจผิด ทำให้ผู้ติดโรคเกิดความละอายและแยกตัวออกจากสังคม กำลังใจและความเข้าใจจากครอบครัว เพื่อนฝูงและชุมชน จะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปได้
ในสังคม
ปัญหาใหญ่ที่สุดของผู้ติดโรคตับอักเสบซี ก็คือ จะบอกให้ใครทราบได้บ้าง ถ้ามีใครบอกท่านว่า เขาเป็นโรคตับอักเสบซี ท่าน ต้องไม่บอกคนอื่นต่อไป นอกจากจะได้รับอนุญาต เพราะจะเป็นการทำลายความไว้วางใจที่มีต่อกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความบาดหมางใจกันได้
ในประเทศออสเตรเลีย เป็นการผิดกฎหมายที่จะเลือกปฏิบัติต่อบุคคลที่มีโรคตับอักเสบซี ทั้งนี้รวมถึงการรับจ้างงานด้วย ท่าน
ไม่จำเป็นต้องบอกใครถ้าท่านติดโรคตับอักเสบซี นอกจากท่านจะทำประกันชีวิต หรือบริจาคเลือด
เจ้าหน้าที่บริการด้านสุขภาพ ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลสุขภาพของท่านได้ หากท่านไม่อนุญาต
สภาโรคตับอักเสบซี (Hepatitis C Council) ในรัฐที่ท่านอาศัยอยู่ สามารถให้ข้อมูลและช่วยเหลือท่านในเรื่องที่จะเปิดเผยอาการป่วยของท่าน การถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงานและการช่วยจัดหางานทำ บริการนี้เก็บรักษาข้อมูลของท่านเป็นความลับ

ที่มาของภาพ www.health2click.com
ที่มาของข้อมูล http://www.mhahs.org.au/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น